หากจะหาคอร์สวันว่างที่คุ้มค่ากับการเดินทาง อีกหนึ่งสถานที่แนะนำก็คือ “เมืองโบราณ” พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก แหล่งเรียนรู้ที่จะทำให้ทุกบ้านเหมือนได้เที่ยวเมืองไทยทั้งหมดภายใน 1 วัน เพราะมีการนำผลงานสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมชิ้นโบว์แดงทั่วฟ้าเมืองไทยมาจำลองไว้ในพื้นที่ที่มีลักษณะคล้ายแผนที่ประเทศไทย
ทุกวันนี้ เมืองโบราณ เป็นเมืองที่ค่อย ๆ เติบโต และมีวิวัฒนาการอยู่เสมอ โดยจะมีการบูรณะซ่อมแซม สร้างโน่น สร้างนี่ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย และที่สำคัญยังคงเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันกับอนาคตที่จะพาทุก ๆ บ้านไปสัมผัสรูปแบบการดำรงอยู่แบบวิถีไทยที่หาชมได้ยาก
แต่กระนั้น เมืองโบราณไม่ใช่เมืองจำลอง หรือเมืองตุ๊กตาอย่างเอาสถานที่ต่างๆ มาสร้างให้มีขนาดเล็กลง แล้วให้ผู้คนเดินชมจนเกิดความรู้สึกว่า เดินดูไปรอบ ๆ แล้วจะเห็นบ้านเมืองไปทั่ว แต่เมืองโบราณเป็นภาพสะท้อนของบ้านเมืองในสมัยโบราณ ที่ทำให้ทุก ๆ ครอบครัวได้หวนรำลึกถึง และสามารถสูดกลิ่นอายของดินแดนโบราณแห่งสยามประเทศ
สำหรับการเที่ยวชมนั้นจะเริ่มเดินจากด้ามขวานทอง ซึ่งก็คือภาคใต้ของไทย เพราะเป็นทางเข้าเมืองโบราณ จากนั้นไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก แล้วแต่ใครอยากไปจุดไหนก่อนหลัง แต่ควรมีแผนที่ติดตัวไว้กันหลงงด้วย
ด้วยพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ คงเหนื่อยหน่อยถ้าไม่มีตัวช่วยอย่างรถราง หรือรถจักรยาน โดยเท่าที่เห็น หลาย ๆ ครอบครัวจะเลือกขี่จักรยานกันมากกว่า เพราะไปถึงจุดเที่ยวชมได้คล่องตัว และเร็ว หรือบ้านไหนอยากมีไกด์คอยให้ความรู้ก็สามารถเลือกซื้อตั๋วรถราง ซึ่งมีตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่พาผู้สูงวัยมาด้วย
ส่วนครอบครัวที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง นอกจากจะต้องเสียค่าเข้าคันละ 300 บาทแล้ว บางสถานที่อย่าง “ตลาดบก” ก็ไม่สามารถขับเข้าไปได้ ต่างกับบ้านที่ขี่จักรยาน สามารถปั่นไปเที่ยวเล่นในตลาดได้อย่างสนุกสนาน เนื่องจากเป็นพื้นที่แสดงลักษณะของชุมชนเมืองในอดีตที่มีร้านค้าขายของกินของใช้โบราณจำนวนมาก
โดยสถานที่สำคัญ ๆ ในเมืองโบราณที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชม คือ พระที่นั่งสรรเพชญมหาประสาท ที่เพิ่งจะบูรณะใหม่ทั้งข้างนอกข้างใน โดยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก-รับราชทูต และหากสังเกตดี ๆ สถานที่แห่งนี้ยังเคยใช้เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องพระศรีสุริโยไทด้วย
นอกจากนี้ยังมีจุดให้น่าเที่ยวชมอีกหลายจุด แบ่งออกเป็นภาค เริ่มตั้งแต่ภาคใต้ พื้นที่ที่ทุกบ้านจะต้องผ่านเป็นจุดแรก มีพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฏร์ธานีที่ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของภาคใต้
ถัดขึ้นมาใน ภาคกลาง มีเรือนทับขวัญหรือเรือนทวาราวดี เป็นกลุ่มเรือนไทยแปดหลังที่มีชานแล่นถึงกันตลอด แสดงให้เห็นถึงระบบการก่อสร้างของไทยแบบโบราณ เมื่อครั้งที่ยังไม่มีตะปูและเครื่องมือทันสมัย ใช้วิธีเจาะรูเข้าเดือย และใช้สลักไม้ทั้งสิ้นเรียกรวมว่าเรือนเครื่องสับ นับเป็นสถานที่นั่งพักรับลมได้เป็นอย่างดี และในบริเวณใกล้ ๆ กันนี้มีอีกหลาย ๆ สถานที่น่าสนใจ เช่น พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นต้น
เดินทางต่อมาในพื้นที่ ภาคอีสาน ที่นี่จะมีปราสาทเขาพระวิหารให้เที่ยวชมโดยไม่ต้องไปแย่งชิงกับเขมรให้เสียเวลา ทั้งยังมีพระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทางฝั่ง ภาคตะวันออก มีปราสาทสด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว เป็นโบราณสถานในศิลปะขอม อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 สวนพระอภัยมณี จ.ระยอง ตึกแดงในตัวจันทบุรีที่สร้างขึ้นในสมัยร.ศ. 112 หรือ พ.ศ. 2436 เมื่อฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ได้ใช้เป็นที่พักของนายทหาร และเป็นกองอำนวยการอยู่บริเวณหาดปากน้ำแหลมสิงห์ เป็นต้น
ส่วน ภาคเหนือ มีหลาย ๆ จุดให้น่าเที่ยวชมไม่แพ้กัน อาทิ สวนไกรทอง วิหารหลวงวัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย หมู่บ้านไทยภาคเหนือ หรือเรือนล้านนาที่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ บ้านเลือกใช้เป็นที่นั่งพักเอาแรงก่อนออกเดินทางเที่ยวไทยกันต่อ
นอกจากนี้ เมืองโบราณก็ยังมีส่วนรังสรรค์ที่เป็นดินแดนแห่งโลกจินตนาการ เกิดจากจินตนาการของผู้สร้าง ซึ่งก็มีคนนิยมไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยจุดที่ไม่น่าพลาดเลยก็มี ศาลาทศชาติ ขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค เรือสำเภาไทย เขาพระสุเมรุ ศาลารามเกียรติ์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากเหนื่อยจากการเดินทาง และอยากพักรับประทานอาหารในช่วงกลางวัน พื้นที่ในภาคเหนือจะมีโซนตลาดน้ำ แหล่งรวมร้านค้า และร้านอาหารโบราณหลายร้านอยู่รายรอบ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ ผัดไทย หรืออื่น ๆ อีกจำนวนมาก
ดังนั้น คงจะไม่ผิดนัก ถ้าจะกล่าวว่า “เมืองโบราณ” คือสถานที่ที่มีคุณค่า และควรหาโอกาสพาครอบครัวมาเยี่ยมชมกันสักครั้ง
สำหรับครอบครัวที่สนใจ สามารถขับรถพาลูก ๆ มาเที่ยวชมกันได้ จากกรุงเทพฯ ไปทางเส้นทางปากน้ำ (สายบางนา-สมุทรปราการ) ผ่านโรงเรียนนายเรือ ศาลากลางจังหวัด ถึงแยกหอนาฬิกา เลี้ยวซ้ายไปทาง ถ.สุขุมวิทสายเก่า ประมาณ กม.ที่ 33 (ประมาณ 8 กิโลเมตร) ก็จะเห็นทางเข้าเมืองโบราณทางซ้ายมือ
เปิดให้เข้าชมกันทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 น. อยู่เที่ยวได้จนถึง 18.00 น. ซึ่งมีจักรบานไว้ให้บริการ ผู้ใหญ่ท่านละ 200 บาท เด็กท่านละ 100 บาท ส่วนถ้าใช้บริการรถรางด้วยผู้ใหญ่ท่านละ 250 บาท เด็กท่านละ 150 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี โปรดแสดงบัตรประชาชน โดยจะลดเหลือท่านละ 100 บาท และ 150 บาทหากใช้บริหารรถราง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2709-1644, 0-2224-1057, 0-2226-1936-7 หรือเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.ancientcity.com
////////////////////
กฎระเบียบในการเข้าชมเมืองโบราณที่ทุกบ้านควรรู้
- โปรดอย่าทำเสียงอื้ออึงทำลายความสงบภายใน
- โปรดอย่าแตะต้องขีดเขียนบนสิ่งก่อสร้างในเมืองโบราณ
- โปรดอย่าเด็ดดอกไม้ ใบไม้
- โปรดอย่าปีนไต่รูปปั้น และสถานที่ก่อสร้างต่างๆ
- โปรดอย่าทิ้งสิ่งของสกปรก
- โปรดจอดรถชิดขอบทาง
- โปรดอย่าลงเล่นน้ำในบึง บ่อ คลอง และน้ำตก
- โปรดอย่าจับ หรือทำอันตรายสัตว์บกและ สัตว์น้ำทุกชนิด
- โปรดอย่านำอาวุธปืน และวัตถุระเบิดเข้าไปในเมืองโบราณ
- ห้ามจุดประทัด ดอกไม้ไฟ หรือก่อกองไฟในเมืองโบราณเด็ดขาด
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าเมืองโบราณ
- ห้ามหัดขับรถภายในเมืองโบราณ
ขอบคุณ
ผู้จัดการออไลน์
หากจะหาคอร์สวันว่างที่คุ้มค่ากับการเดินทาง อีกหนึ่งสถานที่แนะนำก็คือ “เมืองโบราณ” พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก แหล่งเรียนรู้ที่จะทำให้ทุกบ้านเหมือนได้เที่ยวเมืองไทยทั้งหมดภายใน 1 วัน เพราะมีการนำผลงานสถาปัตยกรรม และศิลปกรรมชิ้นโบว์แดงทั่วฟ้าเมืองไทยมาจำลองไว้ในพื้นที่ที่มีลักษณะคล้ายแผนที่ประเทศไทย
ทุกวันนี้ เมืองโบราณ เป็นเมืองที่ค่อย ๆ เติบโต และมีวิวัฒนาการอยู่เสมอ โดยจะมีการบูรณะซ่อมแซม สร้างโน่น สร้างนี่ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย และที่สำคัญยังคงเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างปัจจุบันกับอนาคตที่จะพาทุก ๆ บ้านไปสัมผัสรูปแบบการดำรงอยู่แบบวิถีไทยที่หาชมได้ยาก
แต่กระนั้น เมืองโบราณไม่ใช่เมืองจำลอง หรือเมืองตุ๊กตาอย่างเอาสถานที่ต่างๆ มาสร้างให้มีขนาดเล็กลง แล้วให้ผู้คนเดินชมจนเกิดความรู้สึกว่า เดินดูไปรอบ ๆ แล้วจะเห็นบ้านเมืองไปทั่ว แต่เมืองโบราณเป็นภาพสะท้อนของบ้านเมืองในสมัยโบราณ ที่ทำให้ทุก ๆ ครอบครัวได้หวนรำลึกถึง และสามารถสูดกลิ่นอายของดินแดนโบราณแห่งสยามประเทศ
สำหรับการเที่ยวชมนั้นจะเริ่มเดินจากด้ามขวานทอง ซึ่งก็คือภาคใต้ของไทย เพราะเป็นทางเข้าเมืองโบราณ จากนั้นไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก แล้วแต่ใครอยากไปจุดไหนก่อนหลัง แต่ควรมีแผนที่ติดตัวไว้กันหลงงด้วย
ด้วยพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ คงเหนื่อยหน่อยถ้าไม่มีตัวช่วยอย่างรถราง หรือรถจักรยาน โดยเท่าที่เห็น หลาย ๆ ครอบครัวจะเลือกขี่จักรยานกันมากกว่า เพราะไปถึงจุดเที่ยวชมได้คล่องตัว และเร็ว หรือบ้านไหนอยากมีไกด์คอยให้ความรู้ก็สามารถเลือกซื้อตั๋วรถราง ซึ่งมีตลอดทั้งวัน เหมาะสำหรับครอบครัวที่พาผู้สูงวัยมาด้วย
ส่วนครอบครัวที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง นอกจากจะต้องเสียค่าเข้าคันละ 300 บาทแล้ว บางสถานที่อย่าง “ตลาดบก” ก็ไม่สามารถขับเข้าไปได้ ต่างกับบ้านที่ขี่จักรยาน สามารถปั่นไปเที่ยวเล่นในตลาดได้อย่างสนุกสนาน เนื่องจากเป็นพื้นที่แสดงลักษณะของชุมชนเมืองในอดีตที่มีร้านค้าขายของกินของใช้โบราณจำนวนมาก
โดยสถานที่สำคัญ ๆ ในเมืองโบราณที่ไม่ควรพลาดไปเที่ยวชม คือ พระที่นั่งสรรเพชญมหาประสาท ที่เพิ่งจะบูรณะใหม่ทั้งข้างนอกข้างใน โดยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก-รับราชทูต และหากสังเกตดี ๆ สถานที่แห่งนี้ยังเคยใช้เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องพระศรีสุริโยไทด้วย
นอกจากนี้ยังมีจุดให้น่าเที่ยวชมอีกหลายจุด แบ่งออกเป็นภาค เริ่มตั้งแต่ภาคใต้ พื้นที่ที่ทุกบ้านจะต้องผ่านเป็นจุดแรก มีพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฏร์ธานีที่ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของภาคใต้
ถัดขึ้นมาใน ภาคกลาง มีเรือนทับขวัญหรือเรือนทวาราวดี เป็นกลุ่มเรือนไทยแปดหลังที่มีชานแล่นถึงกันตลอด แสดงให้เห็นถึงระบบการก่อสร้างของไทยแบบโบราณ เมื่อครั้งที่ยังไม่มีตะปูและเครื่องมือทันสมัย ใช้วิธีเจาะรูเข้าเดือย และใช้สลักไม้ทั้งสิ้นเรียกรวมว่าเรือนเครื่องสับ นับเป็นสถานที่นั่งพักรับลมได้เป็นอย่างดี และในบริเวณใกล้ ๆ กันนี้มีอีกหลาย ๆ สถานที่น่าสนใจ เช่น พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ มณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นต้น
เดินทางต่อมาในพื้นที่ ภาคอีสาน ที่นี่จะมีปราสาทเขาพระวิหารให้เที่ยวชมโดยไม่ต้องไปแย่งชิงกับเขมรให้เสียเวลา ทั้งยังมีพระธาตุพนม จ.นครพนม ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ทางฝั่ง ภาคตะวันออก มีปราสาทสด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว เป็นโบราณสถานในศิลปะขอม อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 สวนพระอภัยมณี จ.ระยอง ตึกแดงในตัวจันทบุรีที่สร้างขึ้นในสมัยร.ศ. 112 หรือ พ.ศ. 2436 เมื่อฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ได้ใช้เป็นที่พักของนายทหาร และเป็นกองอำนวยการอยู่บริเวณหาดปากน้ำแหลมสิงห์ เป็นต้น
ส่วน ภาคเหนือ มีหลาย ๆ จุดให้น่าเที่ยวชมไม่แพ้กัน อาทิ สวนไกรทอง วิหารหลวงวัดมหาธาตุ จ.สุโขทัย หมู่บ้านไทยภาคเหนือ หรือเรือนล้านนาที่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ บ้านเลือกใช้เป็นที่นั่งพักเอาแรงก่อนออกเดินทางเที่ยวไทยกันต่อ
นอกจากนี้ เมืองโบราณก็ยังมีส่วนรังสรรค์ที่เป็นดินแดนแห่งโลกจินตนาการ เกิดจากจินตนาการของผู้สร้าง ซึ่งก็มีคนนิยมไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยจุดที่ไม่น่าพลาดเลยก็มี ศาลาทศชาติ ขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค เรือสำเภาไทย เขาพระสุเมรุ ศาลารามเกียรติ์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากเหนื่อยจากการเดินทาง และอยากพักรับประทานอาหารในช่วงกลางวัน พื้นที่ในภาคเหนือจะมีโซนตลาดน้ำ แหล่งรวมร้านค้า และร้านอาหารโบราณหลายร้านอยู่รายรอบ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ ผัดไทย หรืออื่น ๆ อีกจำนวนมาก
ดังนั้น คงจะไม่ผิดนัก ถ้าจะกล่าวว่า “เมืองโบราณ” คือสถานที่ที่มีคุณค่า และควรหาโอกาสพาครอบครัวมาเยี่ยมชมกันสักครั้ง
สำหรับครอบครัวที่สนใจ สามารถขับรถพาลูก ๆ มาเที่ยวชมกันได้ จากกรุงเทพฯ ไปทางเส้นทางปากน้ำ (สายบางนา-สมุทรปราการ) ผ่านโรงเรียนนายเรือ ศาลากลางจังหวัด ถึงแยกหอนาฬิกา เลี้ยวซ้ายไปทาง ถ.สุขุมวิทสายเก่า ประมาณ กม.ที่ 33 (ประมาณ 8 กิโลเมตร) ก็จะเห็นทางเข้าเมืองโบราณทางซ้ายมือ
เปิดให้เข้าชมกันทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 น. อยู่เที่ยวได้จนถึง 18.00 น. ซึ่งมีจักรบานไว้ให้บริการ ผู้ใหญ่ท่านละ 200 บาท เด็กท่านละ 100 บาท ส่วนถ้าใช้บริการรถรางด้วยผู้ใหญ่ท่านละ 250 บาท เด็กท่านละ 150 บาท สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี โปรดแสดงบัตรประชาชน โดยจะลดเหลือท่านละ 100 บาท และ 150 บาทหากใช้บริหารรถราง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2709-1644, 0-2224-1057, 0-2226-1936-7 หรือเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.ancientcity.com
////////////////////
กฎระเบียบในการเข้าชมเมืองโบราณที่ทุกบ้านควรรู้
- โปรดอย่าทำเสียงอื้ออึงทำลายความสงบภายใน
- โปรดอย่าแตะต้องขีดเขียนบนสิ่งก่อสร้างในเมืองโบราณ
- โปรดอย่าเด็ดดอกไม้ ใบไม้
- โปรดอย่าปีนไต่รูปปั้น และสถานที่ก่อสร้างต่างๆ
- โปรดอย่าทิ้งสิ่งของสกปรก
- โปรดจอดรถชิดขอบทาง
- โปรดอย่าลงเล่นน้ำในบึง บ่อ คลอง และน้ำตก
- โปรดอย่าจับ หรือทำอันตรายสัตว์บกและ สัตว์น้ำทุกชนิด
- โปรดอย่านำอาวุธปืน และวัตถุระเบิดเข้าไปในเมืองโบราณ
- ห้ามจุดประทัด ดอกไม้ไฟ หรือก่อกองไฟในเมืองโบราณเด็ดขาด
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดเข้าเมืองโบราณ
- ห้ามหัดขับรถภายในเมืองโบราณ
ขอบคุณ
ผู้จัดการออไลน์
No comments:
Post a Comment