คัทลียา แมคอินทอช เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง ที่สื่อมวลชนเคยให้ฉายานี้กับเธอเอาไว้ ถึงวันนี้แหม่มเปลี่ยนบทบาทจากนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการละคร มาทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่เต็มตัว พร้อมกับดำเนินชีวิตอยู่ในโลกของความเป็นจริง ส่วนชีวิตในวงการละครยังไงแหม่มก็ยังคิดถึงงานแสดง ยังอยากทำงานพิธีกรอยู่ และพร้อมจะกลับคืนสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง
“งานแสดงก็ไม่ได้มีติดต่อมา มีน้องๆ แฟนคลับถามมาทุกวัน “พี่แหม่มเมื่อไหร่จะมีละคร คิดถึงพี่แหม่มอยากดูละคร” เราต้องตอบกลับไปเราเป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว ก็บอกไปว่าไม่มีใครให้เล่น เพราะฉะนั้นยังไม่ได้ดูแน่ๆ เพราะไม่มีใครติดต่อมา เราไม่รู้เพราะอะไรเราก็อยู่ของเราปกติแต่ไม่มีใครติดต่อให้เล่นละคร แหม่มยังไม่มีโอกาสพูดว่าอยากเล่นหรือไม่เล่นหรือปฏิเสธเพราะไม่มีการติดต่อ อาจจะต้องเป็นนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง ญาญ่า หรือคนที่มากฝีมือ ก็มีแต่ละคร 2 เรื่องสุดท้ายของ “พี่บอย” ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่เล่นไปคือ “เปลือกเสน่หา” กับ “ตราบสิ้นดินฟ้า”
“ถามว่าแหม่มซีเรียสไหมไม่นะ เพราะเป็นคนอยู่กับโลกของความเป็นจริงมากแล้วก็ถามคิดถึงละครไหม รักการแสดงไหมแน่นอนอยู่แล้ว แต่จะให้ทำไงให้เราไปดิ้นกลางถนนทำไมฉันไม่มีละครคงไม่ใช่ไงก็ไม่มีใครติดต่อมาก็พูดตรงๆ จะให้เราพูดยังไง แต่ก็ขอบคุณน้องๆ แฟนคลับที่คิดถึงแต่ไม่มีละครให้เล่น ถ้ามีติดต่อมาก็ยินดีที่ได้รับการติดต่อมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าว่าแต่แหม่มเลยไม่ว่าจะใครที่เขามีละครเยอะๆ ตอนนี้เวลามีติดต่อมาก็ต้องดูบทก็เป็นขั้นตอนของการรับงานปกติ แต่ถามว่าแหม่มยินดีและพร้อมเล่นไหมพร้อมอยู่แล้วแต่ไม่มีใครมาให้เล่น”
เพราะแหม่มค่อนข้างเลือกบทมากไปหรือเปล่า
“ละครความสำคัญอยู่ที่บท ก็ไม่รู้เมื่อไหร่เมืองไทยจะเป็นเหมือนเมืองนอก ไม่ได้เปรียบเทียบกับเขา แต่เมืองนอกดาราอายุมากเท่าไหร่ไม่จำเป็นต้องพระเอก แต่เรียกได้ว่าขาดตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้ แหม่มก็ไม่ได้เป็นคนยึดติดหรืออะไรมาก เป็นคนอยู่ในโลกของความเป็นจริงที่ผ่านมาก็เล่นเป็นแม่มาแล้ว คือเราพูดได้ว่านักแสดงส่วนใหญ่การแสดงสำคัญที่บท ไม่ได้ฉันจะไม่เป็นแม่ ไม่เป็นคนใช้ จะเป็นแต่นางเอก ไม่เกี่ยวมันอยู่ที่บท เราได้ใช้ฝีมือได้ใช้การแสดงมากน้อยแค่ไหน ส่วนงานพิธีกรก็ไม่มีติดต่อมาเหมือนกัน เลยมาทำรายการเองและเป็นพิธีกรเองคือ “คำถามคือ” ทางช่องสาระแน แชนแนล”
กระแสตอบรับจากรายการ “คำถามคือ” เป็นยังไงบ้าง
“รายการ “คำถามคือ” เป็นรายการที่ใครอยากรูอะไรก็ถามมาได้ 108 คำถามในทุกๆ เรื่อง ถ้าใครอยากรู้อะไรก็ถามมาเป็นวิธีการตอบการนำเสนอในแบบของเรามากกว่า จริงๆ เขาอยากรู้อะไรก็ไปเช็กในกูเกิ้ลหรือไปเปิดหนังสือดูก็ได้ แต่วิธีหรือสไตล์การตอบของเราหรือรูปแบบทำให้คนดูสนุกด้วยและมีคำตอบได้จริงๆ ด้วย ส่วนใหญ่เราตอบจากประสบการณ์ของเราก่อนและจากความเห็นของพิธีกรสองคน เพราะเราก็เหมือนพี่เหมือนน้องของคนดู เขาอาจจะไม่กล้าปรึกษาที่บ้านก็มาปรึกษาเรา ซึ่งฟีดแบ็กดีนะถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนอยากดูเราอยากเห็นเราก็มาดูได้ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สนุก และดีที่มี อ้น ศรีพรรณ มาเป็นพิธีกรด้วยก็เลยช่วยได้เยอะเพราะเขาก็สนุกสนานสร้างสีสันให้กับรายการเยอะ แล้วแฟนรายการเราไม่ได้มีเฉพาะผู้หญิงนะแฟนผู้ชายก็มีเหมือนกันผู้ชายก็มีเข้ามาถามเยอะ เป็นวัยรุ่นเยอะแปลกมั้ย”
มีรายการที่แหม่มอยากคิดเองทำเองบ้างมั้ย
“ไม่มีนะ เพราะรายการ “คำถามคือ” แหม่มก็ช่วยกันออกความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆแต่คนออกความคิดจริงๆ คือ พี่วิลลี่ แต่เราอยากทำพอดีก็เลยโอเค. คือเขาคิดรายการขึ้นมาแต่เรากับ อ้น ศรีพรรณ เป็นคนสร้างคาแรกเตอร์รายการให้มันเป็นแบบนี้ ณ เวลานี้แหม่มมีแค่นี้ก่อน และมีรายการสดอีกหนึ่งรายการ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 4 โมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม คือ “คุยอย่างเฮีย” พี่วิลลี่พี่เปิ้ล และ พี่หอย เป็นพิธีกร แต่วันไหนที่เขาอัดรายการ “สาระแน” กับ “ฮาจะเกร็ง” ไม่เสร็จเราก็ต้องไปทำแทนเขา แค่นี้ก็โอ้ยเวลาไม่มีเหลือเลย”
งานที่บริษัทก็ต้องทำด้วย
“งานที่บริษัทลักษ์ฯ แหม่มก็มีไปหาลูกค้ากับทีมขายบ้าง และมีดูเรื่องบริษัท เรื่อง บุคคลในออฟฟิศ ดูความเรียบร้อยทุกสิ่งอย่างเพราะเป็นบ้านเราเองไม่ได้ฟิกซ์ว่าอันนี้เธอทำอันนี้ไม่ใช่หน้าที่ฉันก็ไม่ทำก็ไม่ใช่ ใครเห็นอะไรต้องช่วยต้องแก้ก็ทำหมด คือทุกคนช่วยกันดูแลทุกเรื่องเหมือนบ้านเรา ส่วนไหนเราถนัดหรือช่วยได้ก็ช่วย เรียกว่าทุกคนต้องสาระแนทุกเรื่องเพราะของเราเอง”
ทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน
“ก็ต้องดูหมด ดูแลบ้านดูแลความสะอาดความเรียบร้อย คือก็มีแม่บ้านทำแต่เราต้องดูแม่บ้านอีกที ต้องคอยเช็คคอยตรวจตราแหละ ถ้าเราตัวคนเดียวอีกเรื่องแต่นี่กลายเป็นว่าเราต้องดูแลบ้านด้วยดูแลสามีและลูก รายละเอียดมันเยอะขึ้น อันนี้จุดของลูกคนโตอันนี้ลูกคนเล็ก อันนี้ของสามีโอ้ย…เยอะไปหมด ถามว่าแหม่มแบ่งเวลายังไงก็โชคดีที่งานเรายังเป็นเวลาปกติ คือเช้าถึงบ่ายหรือบ่ายถึงเย็น พอเวลาเย็นไปแล้วให้เวลาลูกและครอบครัวเต็มที่ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอก ไม่ค่อยออกงาน นอกจากงานจำเป็นจริงๆ ก็จะไปถ้าไม่จำเป็นจะกลับบ้านให้เวลากับเขาเต็มที่กล่อมลูกเข้านอนหลับไปพร้อมลูกสองทุ่ม วันเสาร์-อาทิตย์ก็ให้เวลาเขาเต็มที่”
ทำหน้าที่คุณแม่ได้เต็มที่ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ชื่นใจ
“คนโต น้องแม็ค เดือนกันยายนจะหกขวบ กำลังแก่นแต่เขาเป็นเด็กผู้ชายก็จะมีบู๊ แต่แหม่มไม่ได้ผู้หญิงหวานก็เล่นกับลูกลุยๆ ห้าวๆ อย่างเตะบอลได้ ยิ่งตอนนี้เขากำลังชอบแปลงร่างด้วย โชคดีที่เราแข็งแรงและอึด ส่วน น้องคิน กำลังน่ารักเดือนนี้จะเต็มขวบแล้วกำลังจะพูดแต่ไม่เป็นคำ เริ่มยืนและเกาะเขยิบเดิน น่ารักมีความสุขสนุกที่สุดเป็นทรัพย์อันประเสริฐที่สุด เป็นความสุขแบบโลกของความเป็นจริง ถามว่าเหนื่อยมั้ยทำอะไรก็ต้องเหนื่อย ทำงานก็เหนื่อย เรียนก็เหนื่อยเลี้ยงลูกก็เหนื่อยแต่ชื่นใจมีเรื่องให้เราเซอร์ไพรส์ตลอดกดกล้องแทบไม่ทัน แต่เหนื่อยกายแป๊บเดียวหัวถึงหมอนหลับตื่นเช้ามานับหนึ่งใหม่มันไม่ได้แบบทุกข์ใจ โชคดีที่ลูกเลี้ยงง่ายแต่เด็กก็จะมีสมาธิประมาณหนึ่ง เราก็ต้องพูดต้องย้ำคิดย้ำทำยอมเหนื่อยหน่อย แต่แหม่มไม่ถึงกับตามใจลูกมาก แต่วันดีคืนดีมีบ้างเพราะไม่ได้เป็นโรงเรียนประจำเข้มงวดขนาดนั้น อะไรมีวินัยก็ต้องมีเข้านอนอาบน้ำต้องเป็นเวลา
ส่วนสามี (“บีบี๋” สงกรานต์ กระจ่างเนตร) ก็น่ารัก ช่วยทำกับข้าวให้ลูกกินอ่านหนังสือให้ลูกฟัง คือแต่ละบ้านมีมาตรฐานต่างกัน บ้านเราง่ายๆ อยู่กันเหมือนเพื่อนด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันมีอะไรคุยกันปรึกษาเรื่องนั้นนี้ช่วยกันเลี้ยงดูลูกอบรมลูก เราไม่รู้บ้านไหนเป็นยังไงภรรยาต้องเตรียมอาหารให้สามีหรือเปล่า แต่เราไม่ต้องเพราะสามีเป็นคนชอบทำกับข้าว ก็โชคดีไป แต่วันไหนตื่นมาเขาไม่ทำเราก็ต้องคอยหาให้เขา แต่ถ้าเขาอยากทำก็ต้องให้เขาทำ เพราะเขาทำก็จะมีความสุข คือแหม่มก็ทำได้บ้างแต่เทียบกับเขาเก่งกว่าเยอะ”
เลี้ยงลูกให้ดีโดยไม่ต้องคาดหวัง
“เพราะเขาบอกห้ามคาดหวัง เพราะถ้าไม่ได้เป็นอย่างเราคาดหวังเราจะผิดหวัง ก็ทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าการศึกษาการอมรมสั่งสอนเอาให้เบื่อไปข้างหนึ่งเลย ที่สำคัญสุดคือการศึกษาเราให้อะไรเขาไม่ได้นอกจากการศึกษา ส่วนสมบัติไปหาเอาเองเราอยากให้เขารู้จักเรียนรู้ไปหาเอง แต่เราจะให้การศึกษาเขาเต็มที่เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะติดตัวเขาไปได้ตลอดชีวิต”
เห็นบอกอยากจะมีลูกสาวอีกสักคน
“ทุกคนก็จะอยากให้มีผู้หญิง ก็ยังได้อยู่นะ แหม่มยังไม่ฟันธงจะยังไงแต่ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งคงน่าเอ็นดูนะ แต่บีบี๋เขาอยากได้ผู้ชายอีกเพราะสังคมแบบนี้ผู้หญิงน่าเป็นห่วง แต่แหม่มว่าอย่าไปเครียด เราก็เลี้ยงของเราเต็มที่ จะผู้หญิงหรือผู้ชายมันน่าเป็นห่วงหมด เอาเป็นว่ายังไม่สรุปจะมีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่มีเวลารอนานเพราะอายุไม่ใช่น้อย ถ้าไม่ปีนี้ก็คงไม่เกินปีหน้า และคนที่สามไม่ว่าจะชายหรือหญิงต้องปิดอู่แล้วล่ะ เพราะสามกำลังดีแต่ถ้าสี่คงไม่ไหวนะ”
พอมีลูกตัวเราเจ็บไม่ได้ตายไม่ได้ลาหยุดก็ไม่ได้
“ไม่ได้เลยพี่ เพราะชีวิตเราต้องดูแลลูกเราอยู่ ที่ออกกำลังกายทุกวันนี้ไมได้ห่วงว่าจะต้องหุ่นดีหรือสวยนะ แต่ต้องแข็งแรงเพราะลูกเรายังเล็ก ถ้าไม่มีเราจะเกิดอะไรขึ้น ต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้เพื่อลูกก่อน ห้ามเจ็บห้ามป่วยห้ามตาย ตอนนี้ก็มีไปชกมวยโอ้โฮ…เหงื่อออกเยอะมากเลยนะสะใจเลยและมีไปว่ายน้ำ ถ้าเป็นไปได้อยากออกกำลังกายอาทิตย์ละ 5 วัน วันละหนึ่งชั่วโมงก็ต้องฟิตหน่อยนะ เพราะเราเจ็บไม่ได้ตายไม่ได้ต้องแข็งแรงเพื่อลูก”
ชีวิตที่เติมเต็มของแหม่มในวันนี้
“ชีวิต ณ วันนี้ลงตัวมากคือแฮปปี้แต่ไม่อยากพูดให้คนหมั่นไส้ แต่เราก็แฮปปี้ในสิ่งที่เรามีอยู่ เราอาจจะไม่ได้แบบคาดหวังกับลูกเขาต้องเป็นหมอ ต้องมีเงินเยอะๆ ต้องมีบ้านหลังใหญ่ เราไม่ได้ยึดติดอะไรแบบนั้นเราก็มีความสุขกับบ้านหลังเล็กๆ ของเรา พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันมีความสุขในบ้านเล็กๆ วันเสาร์อาทิตย์ก็วนบ้านปู่ไปบ้านยายไปหาลุงวิลลี่ และสิ้นเดือนนี้เราก็จะไปเที่ยวอังกฤษด้วยกันพ่อแม่ลูกแฮปปี้ เรามองเป็นความสุข ครอบครัวนี่แหละที่จะเติมเต็มชีวิตเรา แล้วมันก็เติมเต็มจริงๆ นะ ถึงเลี้ยงลูกจะเหนื่อยแต่เราก็มีแรงลุกขึ้นมาทำไง
ขอบคุ
sanook.com
คัทลียา แมคอินทอช เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง ที่สื่อมวลชนเคยให้ฉายานี้กับเธอเอาไว้ ถึงวันนี้แหม่มเปลี่ยนบทบาทจากนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการละคร มาทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่เต็มตัว พร้อมกับดำเนินชีวิตอยู่ในโลกของความเป็นจริง ส่วนชีวิตในวงการละครยังไงแหม่มก็ยังคิดถึงงานแสดง ยังอยากทำงานพิธีกรอยู่ และพร้อมจะกลับคืนสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง
“งานแสดงก็ไม่ได้มีติดต่อมา มีน้องๆ แฟนคลับถามมาทุกวัน “พี่แหม่มเมื่อไหร่จะมีละคร คิดถึงพี่แหม่มอยากดูละคร” เราต้องตอบกลับไปเราเป็นคนตรงๆ อยู่แล้ว ก็บอกไปว่าไม่มีใครให้เล่น เพราะฉะนั้นยังไม่ได้ดูแน่ๆ เพราะไม่มีใครติดต่อมา เราไม่รู้เพราะอะไรเราก็อยู่ของเราปกติแต่ไม่มีใครติดต่อให้เล่นละคร แหม่มยังไม่มีโอกาสพูดว่าอยากเล่นหรือไม่เล่นหรือปฏิเสธเพราะไม่มีการติดต่อ อาจจะต้องเป็นนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง ญาญ่า หรือคนที่มากฝีมือ ก็มีแต่ละคร 2 เรื่องสุดท้ายของ “พี่บอย” ถกลเกียรติ วีรวรรณ ที่เล่นไปคือ “เปลือกเสน่หา” กับ “ตราบสิ้นดินฟ้า”
“ถามว่าแหม่มซีเรียสไหมไม่นะ เพราะเป็นคนอยู่กับโลกของความเป็นจริงมากแล้วก็ถามคิดถึงละครไหม รักการแสดงไหมแน่นอนอยู่แล้ว แต่จะให้ทำไงให้เราไปดิ้นกลางถนนทำไมฉันไม่มีละครคงไม่ใช่ไงก็ไม่มีใครติดต่อมาก็พูดตรงๆ จะให้เราพูดยังไง แต่ก็ขอบคุณน้องๆ แฟนคลับที่คิดถึงแต่ไม่มีละครให้เล่น ถ้ามีติดต่อมาก็ยินดีที่ได้รับการติดต่อมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าว่าแต่แหม่มเลยไม่ว่าจะใครที่เขามีละครเยอะๆ ตอนนี้เวลามีติดต่อมาก็ต้องดูบทก็เป็นขั้นตอนของการรับงานปกติ แต่ถามว่าแหม่มยินดีและพร้อมเล่นไหมพร้อมอยู่แล้วแต่ไม่มีใครมาให้เล่น”
เพราะแหม่มค่อนข้างเลือกบทมากไปหรือเปล่า
“ละครความสำคัญอยู่ที่บท ก็ไม่รู้เมื่อไหร่เมืองไทยจะเป็นเหมือนเมืองนอก ไม่ได้เปรียบเทียบกับเขา แต่เมืองนอกดาราอายุมากเท่าไหร่ไม่จำเป็นต้องพระเอก แต่เรียกได้ว่าขาดตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้ แหม่มก็ไม่ได้เป็นคนยึดติดหรืออะไรมาก เป็นคนอยู่ในโลกของความเป็นจริงที่ผ่านมาก็เล่นเป็นแม่มาแล้ว คือเราพูดได้ว่านักแสดงส่วนใหญ่การแสดงสำคัญที่บท ไม่ได้ฉันจะไม่เป็นแม่ ไม่เป็นคนใช้ จะเป็นแต่นางเอก ไม่เกี่ยวมันอยู่ที่บท เราได้ใช้ฝีมือได้ใช้การแสดงมากน้อยแค่ไหน ส่วนงานพิธีกรก็ไม่มีติดต่อมาเหมือนกัน เลยมาทำรายการเองและเป็นพิธีกรเองคือ “คำถามคือ” ทางช่องสาระแน แชนแนล”
กระแสตอบรับจากรายการ “คำถามคือ” เป็นยังไงบ้าง
“รายการ “คำถามคือ” เป็นรายการที่ใครอยากรูอะไรก็ถามมาได้ 108 คำถามในทุกๆ เรื่อง ถ้าใครอยากรู้อะไรก็ถามมาเป็นวิธีการตอบการนำเสนอในแบบของเรามากกว่า จริงๆ เขาอยากรู้อะไรก็ไปเช็กในกูเกิ้ลหรือไปเปิดหนังสือดูก็ได้ แต่วิธีหรือสไตล์การตอบของเราหรือรูปแบบทำให้คนดูสนุกด้วยและมีคำตอบได้จริงๆ ด้วย ส่วนใหญ่เราตอบจากประสบการณ์ของเราก่อนและจากความเห็นของพิธีกรสองคน เพราะเราก็เหมือนพี่เหมือนน้องของคนดู เขาอาจจะไม่กล้าปรึกษาที่บ้านก็มาปรึกษาเรา ซึ่งฟีดแบ็กดีนะถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คนอยากดูเราอยากเห็นเราก็มาดูได้ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่สนุก และดีที่มี อ้น ศรีพรรณ มาเป็นพิธีกรด้วยก็เลยช่วยได้เยอะเพราะเขาก็สนุกสนานสร้างสีสันให้กับรายการเยอะ แล้วแฟนรายการเราไม่ได้มีเฉพาะผู้หญิงนะแฟนผู้ชายก็มีเหมือนกันผู้ชายก็มีเข้ามาถามเยอะ เป็นวัยรุ่นเยอะแปลกมั้ย”
มีรายการที่แหม่มอยากคิดเองทำเองบ้างมั้ย
“ไม่มีนะ เพราะรายการ “คำถามคือ” แหม่มก็ช่วยกันออกความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆแต่คนออกความคิดจริงๆ คือ พี่วิลลี่ แต่เราอยากทำพอดีก็เลยโอเค. คือเขาคิดรายการขึ้นมาแต่เรากับ อ้น ศรีพรรณ เป็นคนสร้างคาแรกเตอร์รายการให้มันเป็นแบบนี้ ณ เวลานี้แหม่มมีแค่นี้ก่อน และมีรายการสดอีกหนึ่งรายการ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 4 โมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม คือ “คุยอย่างเฮีย” พี่วิลลี่พี่เปิ้ล และ พี่หอย เป็นพิธีกร แต่วันไหนที่เขาอัดรายการ “สาระแน” กับ “ฮาจะเกร็ง” ไม่เสร็จเราก็ต้องไปทำแทนเขา แค่นี้ก็โอ้ยเวลาไม่มีเหลือเลย”
งานที่บริษัทก็ต้องทำด้วย
“งานที่บริษัทลักษ์ฯ แหม่มก็มีไปหาลูกค้ากับทีมขายบ้าง และมีดูเรื่องบริษัท เรื่อง บุคคลในออฟฟิศ ดูความเรียบร้อยทุกสิ่งอย่างเพราะเป็นบ้านเราเองไม่ได้ฟิกซ์ว่าอันนี้เธอทำอันนี้ไม่ใช่หน้าที่ฉันก็ไม่ทำก็ไม่ใช่ ใครเห็นอะไรต้องช่วยต้องแก้ก็ทำหมด คือทุกคนช่วยกันดูแลทุกเรื่องเหมือนบ้านเรา ส่วนไหนเราถนัดหรือช่วยได้ก็ช่วย เรียกว่าทุกคนต้องสาระแนทุกเรื่องเพราะของเราเอง”
ทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน
“ก็ต้องดูหมด ดูแลบ้านดูแลความสะอาดความเรียบร้อย คือก็มีแม่บ้านทำแต่เราต้องดูแม่บ้านอีกที ต้องคอยเช็คคอยตรวจตราแหละ ถ้าเราตัวคนเดียวอีกเรื่องแต่นี่กลายเป็นว่าเราต้องดูแลบ้านด้วยดูแลสามีและลูก รายละเอียดมันเยอะขึ้น อันนี้จุดของลูกคนโตอันนี้ลูกคนเล็ก อันนี้ของสามีโอ้ย…เยอะไปหมด ถามว่าแหม่มแบ่งเวลายังไงก็โชคดีที่งานเรายังเป็นเวลาปกติ คือเช้าถึงบ่ายหรือบ่ายถึงเย็น พอเวลาเย็นไปแล้วให้เวลาลูกและครอบครัวเต็มที่ไม่ค่อยได้ไปไหนหรอก ไม่ค่อยออกงาน นอกจากงานจำเป็นจริงๆ ก็จะไปถ้าไม่จำเป็นจะกลับบ้านให้เวลากับเขาเต็มที่กล่อมลูกเข้านอนหลับไปพร้อมลูกสองทุ่ม วันเสาร์-อาทิตย์ก็ให้เวลาเขาเต็มที่”
ทำหน้าที่คุณแม่ได้เต็มที่ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ชื่นใจ
“คนโต น้องแม็ค เดือนกันยายนจะหกขวบ กำลังแก่นแต่เขาเป็นเด็กผู้ชายก็จะมีบู๊ แต่แหม่มไม่ได้ผู้หญิงหวานก็เล่นกับลูกลุยๆ ห้าวๆ อย่างเตะบอลได้ ยิ่งตอนนี้เขากำลังชอบแปลงร่างด้วย โชคดีที่เราแข็งแรงและอึด ส่วน น้องคิน กำลังน่ารักเดือนนี้จะเต็มขวบแล้วกำลังจะพูดแต่ไม่เป็นคำ เริ่มยืนและเกาะเขยิบเดิน น่ารักมีความสุขสนุกที่สุดเป็นทรัพย์อันประเสริฐที่สุด เป็นความสุขแบบโลกของความเป็นจริง ถามว่าเหนื่อยมั้ยทำอะไรก็ต้องเหนื่อย ทำงานก็เหนื่อย เรียนก็เหนื่อยเลี้ยงลูกก็เหนื่อยแต่ชื่นใจมีเรื่องให้เราเซอร์ไพรส์ตลอดกดกล้องแทบไม่ทัน แต่เหนื่อยกายแป๊บเดียวหัวถึงหมอนหลับตื่นเช้ามานับหนึ่งใหม่มันไม่ได้แบบทุกข์ใจ โชคดีที่ลูกเลี้ยงง่ายแต่เด็กก็จะมีสมาธิประมาณหนึ่ง เราก็ต้องพูดต้องย้ำคิดย้ำทำยอมเหนื่อยหน่อย แต่แหม่มไม่ถึงกับตามใจลูกมาก แต่วันดีคืนดีมีบ้างเพราะไม่ได้เป็นโรงเรียนประจำเข้มงวดขนาดนั้น อะไรมีวินัยก็ต้องมีเข้านอนอาบน้ำต้องเป็นเวลา
ส่วนสามี (“บีบี๋” สงกรานต์ กระจ่างเนตร) ก็น่ารัก ช่วยทำกับข้าวให้ลูกกินอ่านหนังสือให้ลูกฟัง คือแต่ละบ้านมีมาตรฐานต่างกัน บ้านเราง่ายๆ อยู่กันเหมือนเพื่อนด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันมีอะไรคุยกันปรึกษาเรื่องนั้นนี้ช่วยกันเลี้ยงดูลูกอบรมลูก เราไม่รู้บ้านไหนเป็นยังไงภรรยาต้องเตรียมอาหารให้สามีหรือเปล่า แต่เราไม่ต้องเพราะสามีเป็นคนชอบทำกับข้าว ก็โชคดีไป แต่วันไหนตื่นมาเขาไม่ทำเราก็ต้องคอยหาให้เขา แต่ถ้าเขาอยากทำก็ต้องให้เขาทำ เพราะเขาทำก็จะมีความสุข คือแหม่มก็ทำได้บ้างแต่เทียบกับเขาเก่งกว่าเยอะ”
เลี้ยงลูกให้ดีโดยไม่ต้องคาดหวัง
“เพราะเขาบอกห้ามคาดหวัง เพราะถ้าไม่ได้เป็นอย่างเราคาดหวังเราจะผิดหวัง ก็ทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าการศึกษาการอมรมสั่งสอนเอาให้เบื่อไปข้างหนึ่งเลย ที่สำคัญสุดคือการศึกษาเราให้อะไรเขาไม่ได้นอกจากการศึกษา ส่วนสมบัติไปหาเอาเองเราอยากให้เขารู้จักเรียนรู้ไปหาเอง แต่เราจะให้การศึกษาเขาเต็มที่เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะติดตัวเขาไปได้ตลอดชีวิต”
เห็นบอกอยากจะมีลูกสาวอีกสักคน
“ทุกคนก็จะอยากให้มีผู้หญิง ก็ยังได้อยู่นะ แหม่มยังไม่ฟันธงจะยังไงแต่ถ้ามีผู้หญิงคนหนึ่งคงน่าเอ็นดูนะ แต่บีบี๋เขาอยากได้ผู้ชายอีกเพราะสังคมแบบนี้ผู้หญิงน่าเป็นห่วง แต่แหม่มว่าอย่าไปเครียด เราก็เลี้ยงของเราเต็มที่ จะผู้หญิงหรือผู้ชายมันน่าเป็นห่วงหมด เอาเป็นว่ายังไม่สรุปจะมีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่มีเวลารอนานเพราะอายุไม่ใช่น้อย ถ้าไม่ปีนี้ก็คงไม่เกินปีหน้า และคนที่สามไม่ว่าจะชายหรือหญิงต้องปิดอู่แล้วล่ะ เพราะสามกำลังดีแต่ถ้าสี่คงไม่ไหวนะ”
พอมีลูกตัวเราเจ็บไม่ได้ตายไม่ได้ลาหยุดก็ไม่ได้
“ไม่ได้เลยพี่ เพราะชีวิตเราต้องดูแลลูกเราอยู่ ที่ออกกำลังกายทุกวันนี้ไมได้ห่วงว่าจะต้องหุ่นดีหรือสวยนะ แต่ต้องแข็งแรงเพราะลูกเรายังเล็ก ถ้าไม่มีเราจะเกิดอะไรขึ้น ต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้เพื่อลูกก่อน ห้ามเจ็บห้ามป่วยห้ามตาย ตอนนี้ก็มีไปชกมวยโอ้โฮ…เหงื่อออกเยอะมากเลยนะสะใจเลยและมีไปว่ายน้ำ ถ้าเป็นไปได้อยากออกกำลังกายอาทิตย์ละ 5 วัน วันละหนึ่งชั่วโมงก็ต้องฟิตหน่อยนะ เพราะเราเจ็บไม่ได้ตายไม่ได้ต้องแข็งแรงเพื่อลูก”
ชีวิตที่เติมเต็มของแหม่มในวันนี้
“ชีวิต ณ วันนี้ลงตัวมากคือแฮปปี้แต่ไม่อยากพูดให้คนหมั่นไส้ แต่เราก็แฮปปี้ในสิ่งที่เรามีอยู่ เราอาจจะไม่ได้แบบคาดหวังกับลูกเขาต้องเป็นหมอ ต้องมีเงินเยอะๆ ต้องมีบ้านหลังใหญ่ เราไม่ได้ยึดติดอะไรแบบนั้นเราก็มีความสุขกับบ้านหลังเล็กๆ ของเรา พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันมีความสุขในบ้านเล็กๆ วันเสาร์อาทิตย์ก็วนบ้านปู่ไปบ้านยายไปหาลุงวิลลี่ และสิ้นเดือนนี้เราก็จะไปเที่ยวอังกฤษด้วยกันพ่อแม่ลูกแฮปปี้ เรามองเป็นความสุข ครอบครัวนี่แหละที่จะเติมเต็มชีวิตเรา แล้วมันก็เติมเต็มจริงๆ นะ ถึงเลี้ยงลูกจะเหนื่อยแต่เราก็มีแรงลุกขึ้นมาทำไง
ขอบคุ
sanook.com
No comments:
Post a Comment