คุณสาว ๆ เคยบ้างไหมคะที่เพียรนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกอย่างตั้งใจ แต่สุดท้ายก็พบปัญหาเครื่องสำอางไม่ติดทน สีสวย ๆ ที่คุณบรรจงแต่งแต้มไว้เลือนหายจากใบหน้าก่อนจะผ่านพ้นครึ่งวันเสียอีก วันนี้เลยจะพาสาว ๆ ไปดูวิธีแต่งหน้าให้อยู่ติดทนโดยไม่ต้องเติมหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าบ่อย ๆ โดยเครื่องสำอางที่ควรเน้นให้อยู่ติดใบหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูสดใสไม่ซีดเซียวมีอยู่สามจุดที่สำคัญคือ ผิวหน้า, ดวงตา และริมฝีปากค่ะ
1. ครีมรองพื้นและแป้งแต่งหน้า
การมีสภาพผิวหน้าที่สดใสสุขภาพดี คือสิ่งสำคัญเป็นอันดับหนึ่งสำหรับการแต่งหน้า ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหนหรืออายุเท่าไหร่ก็ตาม เพราะฉะนั้นอย่าเสียดายที่จะลงทุนกับครีมสำหรับบำรุงผิวหน้า และผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตา รวมทั้งครีมรองพื้นที่มีคุณภาพดี
ผิวหน้าที่มีรูขุมขนกว้างจะซึมซับครีมรองพื้นหรือแป้งแต่งหน้าได้ดีกว่าผิวประเภทอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ครีมหรือแป้งที่ทาลงไปเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ง่ายกว่าด้วย เพราะฉะนั้นสาว ๆ ที่มีรูขุมขนกว้างจึงต้องเลือกประเภทของครีมรองพื้นที่ถูกกับผิวหน้า ซึ่งมักอยู่ในรูปของเจลหรือครีมที่มีเนื้อบางเบา
หลังจากทาครีมบำรุงผิวแล้ว ทิ้งเวลาให้เนื้อครีมได้ซึมซับลงสู่ผิวหน้าประมาณ 10 นาทีก่อนเริ่มแต่งหน้า หากคุณแต่งหน้าทันทีหลังจากทาครีมบำรุงผิว จะทำให้เครื่องสำอางติดผิวหน้าเพียงเรือนลางและถูกดูดซึมไปอุดตันตามรูขุมขนได้ง่ายด้วย
เพื่อผิวหน้าที่แลดูเนียนใสไร้รอยด่างดำ การใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผิวที่ให้ความปกปิดได้ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ควรหลีกเลียงแป้งที่มีเนื้อหนา หรือมีส่วนผสมของน้ำมัน และเพื่อการปกปิดเฉพาะจุดที่ดูเป็นธรรมชาติ เลือกใช้คอนซีลเลอร์เนื้อแข็งหรือแบบแท่งจะให้ผลดีที่สุด
สำหรับผู้ที่มีผิวค่อนข้างมัน เมื่อเลือกแป้งสำหรับแต่งหน้า ให้เลือกแป้งแต่งหน้าแบบเนื้อครีม ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยนเนื้อเป็นแป้งเมื่อสัมผัสผิว ส่วนผิวธรรมดาถึงผิวแห้งให้เลือกใช้ทินท์ครีมแบบที่มีชิมเมอร์เล็ก ๆ เพื่อเพิ่มประกายให้กับผิว รวมถึงพกแป้งตลับเอาไว้เพื่อเติมระหว่างวันด้วยค่ะ
เมื่อลงครีมรองพื้นบนใบหน้า อย่าใช้วิธีทาหรือถู แต่ให้ใช้ปลายนิ้วแตะครีมรองพื้นและแต้มลงตามบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าแล้วจึงค่อย ๆ เกลี่ยออกให้เรียบเนียนไปกับสีผิว รวมทั้งระวังอย่าใช้ครีมรองพื้นมากเกินไป ยิ่งลงครีมรองพื้นมาก ก็จะยิ่งทำให้ลบเลือนได้เร็วเช่นเดียวกัน
2. เครื่องสำอางสำหรับตา
ดวงตาจัดว่าเป็นจุดดึงดูดความสนใจบนใบหน้า แต่ปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ในการแต่งดวงตาก็คือ มาสคาร่าที่ร่วงเป็นผงลงมาเปื้อนรอบดวงตา อายไลน์เนอร์ที่ลบเลือน และอายแชโดว์ที่เลอะอยู่บริเวณรอยพับเปลือกตา โดยมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศอย่างฝนตก อากาศร้อน หรือความชื้นในอากาศ หรือเหงื่อและสภาพผิวมัน รวมทั้งการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม
สำหรับการแต่งหน้าตามปกติ ควรเลือกอายแชโดว์และบลัชออนแบบเนื้อฝุ่นหรือเนื้อแป้ง หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้หน้ามันและลบเลือนระหว่างวันได้ง่าย หรือหากต้องการใช้อย่าลืมลงแป้งทับอีกครั้งเพื่อดูดซับความมันที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ส่วนการใช้อายไลน์เนอร์นั้น แบบน้ำจะติดทนมากกว่าแบบดินสอ และอย่าลืมเลือกอายไลน์เนอร์ที่สามารถกันน้ำได้ด้วย
ครีมบำรุงผิวสำหรับรอบดวงตาส่วนใหญ่มักมีเนื้อหนักข้น ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ยามก่อนนอน สำหรับการบำรุงผิวรอบดวงตาก่อนแต่งหน้านั้น ควรเลือกใช้อายครีมแบบเจล ซึ่งซึมซับลงสู่ผิวได้ง่ายกว่า และยังไม่ทิ้งความมันที่จะทำให้เครื่องสำอางลบเลือนได้ง่ายด้วย
ก่อนจะแต่งตาด้วยอายแชโดว์และมาสคาร่า ให้ลงแป้งบาง ๆ ที่ปริเวณเปลือกตา จะช่วยให้สีสันจากอายแชโดว์ติดทนนาน และทำให้ขนตาหลังการทามาสคาร่าดูหนาขึ้นด้วยค่ะ
เลือกใช้เครื่องสำอางสำหรับดวงตาที่ไม่มีส่วนผสมอันจะ ทำให้ผิวระคายเคือง เช่น สารแต่งกลิ่น หรือแอลกอฮอล์ เพราะหากคุณมีอาการระคายเคือง จะทำให้เกิดอาการคัน น้ำตาไหล แล้วทำให้เครื่องสำอางลบเลือนด้วย
3. ลิปสติก
เพื่อให้สีของลิปสติกรวมทั้งดินสอเขียนขอบปากอยู่ติดทน อย่าลืมใช้ครีมรองพื้นเพื่อเตรียมผิวบริเวณริมฝีปากและเหนือแนวริมฝีปากด้วย
การใช้ดินสอเขียนขอบปากจะช่วยให้สีสันที่ริมฝีปากติดอยู่ทนนาน เลือกใช้ดินสอเขียนขอบปากที่มีสีเดียวหรือเข้มกว่าสีลิปสติกที่คุณจะใช้ เขียนเป็นแนวริมฝีปากก่อนจะลงลิปสติก และใช้พัฟแตะแป้งกดซับเบา ๆ อีกครั้ง
ผู้ที่ชอบใช้ลิปกลอสมักพบปัญหาการลบเลือนไปได้ง่าย ๆ ทุกครั้งที่ดื่มน้ำ จิบชาหรือกาแฟ เพื่อให้สีสันที่ริมฝีปากอยู่ติดได้นาน คุณควรใช้ลิปสติกเมื่อแต่งหน้าในครั้งแรกของวัน แล้วจึงพกลิปกลอสสีเดียวกันเพื่อเติมริมฝีปากระหว่างวัน เพราะลิปสติกนั้นจะติดทนกว่าลิปกลอส และริมฝีปากที่ชุ่มชื้นจากลิปกลอสจะช่วยให้สีของลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้น
และประการสุดท้ายคือ การแต่งหน้าในที่ที่มีแสงเพียงพอ และหากเป็นไปได้ควรเป็นแสงธรรมชาติ หากคุณแต่งหน้าในที่มีแสงทึมสลัวอาจทำให้คุณแต่งหน้าเข้มเกินไป ในทางกลับกันการแต่งหน้าในที่สว่างจ้ามาก ๆ อาจทำให้คุณแต่งหน้าอ่อนเกินไปจนดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเลยได้ค่ะ
รู้เคล็ดลับการแต่งหน้าให้ติดทนนานทั้งวันแล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็แต่งหน้าได้อย่างมั่นใจว่าจะสวยเป๊ะไปตลอดวัน แบบไม่ต้องเติมหน้าเติมตากันบ่อย ๆ ให้เสียเวลาอีกแล้วค่ะ
คุณสาว ๆ เคยบ้างไหมคะที่เพียรนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกอย่างตั้งใจ แต่สุดท้ายก็พบปัญหาเครื่องสำอางไม่ติดทน สีสวย ๆ ที่คุณบรรจงแต่งแต้มไว้เลือนหายจากใบหน้าก่อนจะผ่านพ้นครึ่งวันเสียอีก วันนี้เลยจะพาสาว ๆ ไปดูวิธีแต่งหน้าให้อยู่ติดทนโดยไม่ต้องเติมหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าบ่อย ๆ โดยเครื่องสำอางที่ควรเน้นให้อยู่ติดใบหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูสดใสไม่ซีดเซียวมีอยู่สามจุดที่สำคัญคือ ผิวหน้า, ดวงตา และริมฝีปากค่ะ
1. ครีมรองพื้นและแป้งแต่งหน้า
การมีสภาพผิวหน้าที่สดใสสุขภาพดี คือสิ่งสำคัญเป็นอันดับหนึ่งสำหรับการแต่งหน้า ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหนหรืออายุเท่าไหร่ก็ตาม เพราะฉะนั้นอย่าเสียดายที่จะลงทุนกับครีมสำหรับบำรุงผิวหน้า และผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตา รวมทั้งครีมรองพื้นที่มีคุณภาพดี
ผิวหน้าที่มีรูขุมขนกว้างจะซึมซับครีมรองพื้นหรือแป้งแต่งหน้าได้ดีกว่าผิวประเภทอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ครีมหรือแป้งที่ทาลงไปเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ง่ายกว่าด้วย เพราะฉะนั้นสาว ๆ ที่มีรูขุมขนกว้างจึงต้องเลือกประเภทของครีมรองพื้นที่ถูกกับผิวหน้า ซึ่งมักอยู่ในรูปของเจลหรือครีมที่มีเนื้อบางเบา
หลังจากทาครีมบำรุงผิวแล้ว ทิ้งเวลาให้เนื้อครีมได้ซึมซับลงสู่ผิวหน้าประมาณ 10 นาทีก่อนเริ่มแต่งหน้า หากคุณแต่งหน้าทันทีหลังจากทาครีมบำรุงผิว จะทำให้เครื่องสำอางติดผิวหน้าเพียงเรือนลางและถูกดูดซึมไปอุดตันตามรูขุมขนได้ง่ายด้วย
เพื่อผิวหน้าที่แลดูเนียนใสไร้รอยด่างดำ การใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพผิวที่ให้ความปกปิดได้ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ควรหลีกเลียงแป้งที่มีเนื้อหนา หรือมีส่วนผสมของน้ำมัน และเพื่อการปกปิดเฉพาะจุดที่ดูเป็นธรรมชาติ เลือกใช้คอนซีลเลอร์เนื้อแข็งหรือแบบแท่งจะให้ผลดีที่สุด
สำหรับผู้ที่มีผิวค่อนข้างมัน เมื่อเลือกแป้งสำหรับแต่งหน้า ให้เลือกแป้งแต่งหน้าแบบเนื้อครีม ซึ่งตัวผลิตภัณฑ์จะเปลี่ยนเนื้อเป็นแป้งเมื่อสัมผัสผิว ส่วนผิวธรรมดาถึงผิวแห้งให้เลือกใช้ทินท์ครีมแบบที่มีชิมเมอร์เล็ก ๆ เพื่อเพิ่มประกายให้กับผิว รวมถึงพกแป้งตลับเอาไว้เพื่อเติมระหว่างวันด้วยค่ะ
เมื่อลงครีมรองพื้นบนใบหน้า อย่าใช้วิธีทาหรือถู แต่ให้ใช้ปลายนิ้วแตะครีมรองพื้นและแต้มลงตามบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้าแล้วจึงค่อย ๆ เกลี่ยออกให้เรียบเนียนไปกับสีผิว รวมทั้งระวังอย่าใช้ครีมรองพื้นมากเกินไป ยิ่งลงครีมรองพื้นมาก ก็จะยิ่งทำให้ลบเลือนได้เร็วเช่นเดียวกัน
2. เครื่องสำอางสำหรับตา
ดวงตาจัดว่าเป็นจุดดึงดูดความสนใจบนใบหน้า แต่ปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ ในการแต่งดวงตาก็คือ มาสคาร่าที่ร่วงเป็นผงลงมาเปื้อนรอบดวงตา อายไลน์เนอร์ที่ลบเลือน และอายแชโดว์ที่เลอะอยู่บริเวณรอยพับเปลือกตา โดยมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศอย่างฝนตก อากาศร้อน หรือความชื้นในอากาศ หรือเหงื่อและสภาพผิวมัน รวมทั้งการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม
สำหรับการแต่งหน้าตามปกติ ควรเลือกอายแชโดว์และบลัชออนแบบเนื้อฝุ่นหรือเนื้อแป้ง หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้หน้ามันและลบเลือนระหว่างวันได้ง่าย หรือหากต้องการใช้อย่าลืมลงแป้งทับอีกครั้งเพื่อดูดซับความมันที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ส่วนการใช้อายไลน์เนอร์นั้น แบบน้ำจะติดทนมากกว่าแบบดินสอ และอย่าลืมเลือกอายไลน์เนอร์ที่สามารถกันน้ำได้ด้วย
ครีมบำรุงผิวสำหรับรอบดวงตาส่วนใหญ่มักมีเนื้อหนักข้น ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ยามก่อนนอน สำหรับการบำรุงผิวรอบดวงตาก่อนแต่งหน้านั้น ควรเลือกใช้อายครีมแบบเจล ซึ่งซึมซับลงสู่ผิวได้ง่ายกว่า และยังไม่ทิ้งความมันที่จะทำให้เครื่องสำอางลบเลือนได้ง่ายด้วย
ก่อนจะแต่งตาด้วยอายแชโดว์และมาสคาร่า ให้ลงแป้งบาง ๆ ที่ปริเวณเปลือกตา จะช่วยให้สีสันจากอายแชโดว์ติดทนนาน และทำให้ขนตาหลังการทามาสคาร่าดูหนาขึ้นด้วยค่ะ
เลือกใช้เครื่องสำอางสำหรับดวงตาที่ไม่มีส่วนผสมอันจะ ทำให้ผิวระคายเคือง เช่น สารแต่งกลิ่น หรือแอลกอฮอล์ เพราะหากคุณมีอาการระคายเคือง จะทำให้เกิดอาการคัน น้ำตาไหล แล้วทำให้เครื่องสำอางลบเลือนด้วย
3. ลิปสติก
เพื่อให้สีของลิปสติกรวมทั้งดินสอเขียนขอบปากอยู่ติดทน อย่าลืมใช้ครีมรองพื้นเพื่อเตรียมผิวบริเวณริมฝีปากและเหนือแนวริมฝีปากด้วย
การใช้ดินสอเขียนขอบปากจะช่วยให้สีสันที่ริมฝีปากติดอยู่ทนนาน เลือกใช้ดินสอเขียนขอบปากที่มีสีเดียวหรือเข้มกว่าสีลิปสติกที่คุณจะใช้ เขียนเป็นแนวริมฝีปากก่อนจะลงลิปสติก และใช้พัฟแตะแป้งกดซับเบา ๆ อีกครั้ง
ผู้ที่ชอบใช้ลิปกลอสมักพบปัญหาการลบเลือนไปได้ง่าย ๆ ทุกครั้งที่ดื่มน้ำ จิบชาหรือกาแฟ เพื่อให้สีสันที่ริมฝีปากอยู่ติดได้นาน คุณควรใช้ลิปสติกเมื่อแต่งหน้าในครั้งแรกของวัน แล้วจึงพกลิปกลอสสีเดียวกันเพื่อเติมริมฝีปากระหว่างวัน เพราะลิปสติกนั้นจะติดทนกว่าลิปกลอส และริมฝีปากที่ชุ่มชื้นจากลิปกลอสจะช่วยให้สีของลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้น
และประการสุดท้ายคือ การแต่งหน้าในที่ที่มีแสงเพียงพอ และหากเป็นไปได้ควรเป็นแสงธรรมชาติ หากคุณแต่งหน้าในที่มีแสงทึมสลัวอาจทำให้คุณแต่งหน้าเข้มเกินไป ในทางกลับกันการแต่งหน้าในที่สว่างจ้ามาก ๆ อาจทำให้คุณแต่งหน้าอ่อนเกินไปจนดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าเลยได้ค่ะ
รู้เคล็ดลับการแต่งหน้าให้ติดทนนานทั้งวันแล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็แต่งหน้าได้อย่างมั่นใจว่าจะสวยเป๊ะไปตลอดวัน แบบไม่ต้องเติมหน้าเติมตากันบ่อย ๆ ให้เสียเวลาอีกแล้วค่ะ
No comments:
Post a Comment