แม้ว่านิสัยโดยส่วนตัวแล้ว มิรุ คิม จะเป็นคนที่ขี้อาย ไม่ค่อยแสดงออกมากนัก แต่ในงานศิลปะของเธอ เธอใช้เรือนร่างปราศจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในการถ่ายทอด ในอิริยาบถต่างๆ จนได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ศิลปะทั่วโลก มิรุ คิม วัย 30 ปี จากนิวยอร์ค เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น โรงงานร้าง อุโมงค์ สะพาน ให้ช่างภาพบันทึกภาพขณะเปลือยกายในเชิงศิลปะ ที่มีการจัดองค์ประกอบภาพตามที่ต้องการ เธอกล่าวว่า ความกลัว เป็นสิ่งที่ฝังลึกในใจมาตั้งแต่เธอยังเด็ก อาทิ กลัวความมืด กลัวอันตรายจากกิจกรรมต่างๆ กลัวความสกปรก จนความกลัวเป็นอุปสรรคครอบงำจิตใจมาโดยตลอด และนั่นเองจึงเป็นที่มาของศิลปะพิชิตความกล้า และไม่ต้องกลัวสิ่งใดๆอีกต่อไป และเธอก็เชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมาก ที่สามารถพิชิตความกลัวจากจิตใจของพวกเขาได้ คิม เริ่มแก้ผ้าเปลือยกายถ่ายภาพศิลปะตั้งแต่ปี 2004 โดยการถ่ายภาพครั้งแรกนั้นเธอบอกว่า รู้สึกประหม่า กล้าๆกลัวๆ แต่ปัจจุบันก็ชิน ไม่กลัวอีกต่อไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เปลือยกายถ่ายภาพในสถานที่ปรักหักพังของเมือง จะรู้สึกได้ว่า สถานที่แห่งนั้นจะเปลี่ยนจากสถานที่อันตรายกลายเป็นที่ที่มีแต่ความสงบ เปลี่ยนจากความแปลกเป็นความคุ้นเคย แม้ว่าบางแห่งจะมีความเสี่ยงที่จะถูกจับ เช่นในอิสตันบูล ประเทศตุรกี ที่ขณะที่ถ่ายทำภาพศิลปะอยู่นั้น ก็ถูกรปภ.โมโหพร้อมกับเข้ามาตักเตือน ดีที่เพื่อนของเธอพยายามเจรจาจนรปภ.ยอมปล่อยตัว หรือบางทีก็ต้องหลบเฮลิคอปเตอร์ที่บินผ่านมาขณะเปลือยกายถ่ายภาพบนสะพานแมนฮัตตัน ในนิวยอร์ค นักวิจารณ์ศิลปะ ต่างยกย่องศิลปะของคิม แต่ขณะเดียวกันผู้ที่เห็นภาพบางคนอาจมองในอีกมุมหนึ่งแตกต่างออกไป ซึ่งบางคนอาจตีความงานศิลปะของเธอไปในทางที่ผิดไปจากวัตถุประสงค์ของเธอที่ต้องการจะสื่อ แต่เธอก็ยอมรับ เปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น
แม้ว่านิสัยโดยส่วนตัวแล้ว มิรุ คิม จะเป็นคนที่ขี้อาย ไม่ค่อยแสดงออกมากนัก แต่ในงานศิลปะของเธอ เธอใช้เรือนร่างปราศจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในการถ่ายทอด ในอิริยาบถต่างๆ จนได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ศิลปะทั่วโลก มิรุ คิม วัย 30 ปี จากนิวยอร์ค เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น โรงงานร้าง อุโมงค์ สะพาน ให้ช่างภาพบันทึกภาพขณะเปลือยกายในเชิงศิลปะ ที่มีการจัดองค์ประกอบภาพตามที่ต้องการ เธอกล่าวว่า ความกลัว เป็นสิ่งที่ฝังลึกในใจมาตั้งแต่เธอยังเด็ก อาทิ กลัวความมืด กลัวอันตรายจากกิจกรรมต่างๆ กลัวความสกปรก จนความกลัวเป็นอุปสรรคครอบงำจิตใจมาโดยตลอด และนั่นเองจึงเป็นที่มาของศิลปะพิชิตความกล้า และไม่ต้องกลัวสิ่งใดๆอีกต่อไป และเธอก็เชื่อว่ามีคนอีกจำนวนมาก ที่สามารถพิชิตความกลัวจากจิตใจของพวกเขาได้ คิม เริ่มแก้ผ้าเปลือยกายถ่ายภาพศิลปะตั้งแต่ปี 2004 โดยการถ่ายภาพครั้งแรกนั้นเธอบอกว่า รู้สึกประหม่า กล้าๆกลัวๆ แต่ปัจจุบันก็ชิน ไม่กลัวอีกต่อไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เปลือยกายถ่ายภาพในสถานที่ปรักหักพังของเมือง จะรู้สึกได้ว่า สถานที่แห่งนั้นจะเปลี่ยนจากสถานที่อันตรายกลายเป็นที่ที่มีแต่ความสงบ เปลี่ยนจากความแปลกเป็นความคุ้นเคย แม้ว่าบางแห่งจะมีความเสี่ยงที่จะถูกจับ เช่นในอิสตันบูล ประเทศตุรกี ที่ขณะที่ถ่ายทำภาพศิลปะอยู่นั้น ก็ถูกรปภ.โมโหพร้อมกับเข้ามาตักเตือน ดีที่เพื่อนของเธอพยายามเจรจาจนรปภ.ยอมปล่อยตัว หรือบางทีก็ต้องหลบเฮลิคอปเตอร์ที่บินผ่านมาขณะเปลือยกายถ่ายภาพบนสะพานแมนฮัตตัน ในนิวยอร์ค นักวิจารณ์ศิลปะ ต่างยกย่องศิลปะของคิม แต่ขณะเดียวกันผู้ที่เห็นภาพบางคนอาจมองในอีกมุมหนึ่งแตกต่างออกไป ซึ่งบางคนอาจตีความงานศิลปะของเธอไปในทางที่ผิดไปจากวัตถุประสงค์ของเธอที่ต้องการจะสื่อ แต่เธอก็ยอมรับ เปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น
No comments:
Post a Comment