Hi quest ,  welcome  |  sign in  |  registered now  |  need help ?
Hi, guest ! welcome to BREAK NEWS ONLINE. | About Us | Contact | Register | Sign In

เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน (กุ้ยหลินเมืองไทย) แพทะเลใน 500ไร่ จ.สุราษฎร์ธานี

Written By 092505589 on Tuesday, July 12, 2011 | 1:00 AM

[postlink]http://breaknewsonline.blogspot.com/2011/07/500_12.html[/postlink]

12 7 2554 14 59 42 300x229 เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน (กุ้ยหลินเมืองไทย) แพทะเลใน 500ไร่ จ.สุราษฎร์ธานี


วันแรก ของการเดินทาง เราเริ่มเดินทางออกจาก กรุงเทพฯ ประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม โดยดูจากแผนที่นี่แหละ (เพราะไม่เคยไป) ก็คลำๆทางไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปถึง ประมาณ ตี5 เราจะเริ่มเดือนทางจากท่าเรือประมาณ 8 โมง (ไม่นอนเลยขับรถกันยาวมาตลอดคืน)


ระหว่าง นั่งเรือไป มีเขามากมาย (กุ้ยหลินเมืองไทยจริงๆ) ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ อดไม่ได้ที่จะแชะรูป มาเพียบ ที่เราชอบจะเป็น”เขาสามเกลอ” มันสวยจริงๆ ที่สำคัญที่นี่น้ำใสมากๆ สีเขียวเลยอะ


image


การเดินทางโดยเรือใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที (ขึ้นอยู่กับแวะถ่ายรูปเยอะป่าว) ก็ถึงที่จอดเรือ เพื่อเดินเท้าต่อไปประมาณ 1.5 กม.เพื่อจะไปแพทะเลใน 500ไร่ พอเดินถึงนั่งแพยนต์ไปอีกนิดนึงก็ถึงแพ500ไร่ โอ้วว!! มันสวยมาก เป็นแพบ้านๆ หันหน้าให้กับทิวเขาเลยอะ แถมมีหมอกพาดผ่าน อย่างสวยงาม ธรรมชาตินี่ช่างสร้างจริงๆ


image


 image


หลังจากนั้นเราก็พักผ่อนตามอัธยาศัย (แอบงีบสักหน่อยเพราะไม่ได้นอนเลย) ซักพักไปทานอาหารกลางวัน อาหารอาจจะไม่ค่อยถูกปากคนกรุงซักเท่าไร


image


พอทานอาหารเสร็จ เราก็ไปพายเรือเล่น สนุกดี (พายไม่ค่อยเป็นเท่าไร) พายไปซื้อขนมอะ แล้วก็กลับมาเล่นน้ำใสๆ แบบว่า น้ำใสจริงๆ ไม่ค่อยเย็นมาก เล่นได้นานเลย


image  


ประมาณ 16.00 น.ก็ไปดูถ้ำปะการัง โดย(แพยนต์อีกแล้ว)โอ้ว!!มายกอด มันแปลกจริง หินอะไร งอกออกมาเป็นดอกปะการังเลย (อันนี้ต้องไปดูด้วยตาอะ มันสวยมากๆ)มันสมบูรณ์มากๆ ถ้ำมันไม่ลึกเท่าไร เท่าที่มองดูยังไม่มีทางการมาดูแลมากมายเท่าไร เพราะหินที่งอกใหม่ไม่มีการกั้นคอก เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวไปเหยียบมันอ่ะ


หลังจากนั้นก็กลับมาอาบน้ำอาบท่า (อาบท่าจริงๆ ) ก็อาบหน้าแพที่เรานอนแหละ พออาบน้ำเสร็จก็ไปทางอาหารเย็น หลังจากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย


พอ 2 ทุ่ม ลุงดำ(โชว์เฟอร์แพยนต์ที่น่ารัก) ก็มารับไปส่องสัตว์ ตอนแรกเราก็งงว่า เค้าไนท์ซาฟารีกลางน้ำด้วยหรอ?? โอ้วๆ ที่จริง เค้าพาเรานั่งเรือยนต์ออกไปกลางน้ำ แล้วก็มีไฟส่องไกลๆ ไปตามเขาอะ ลุงดำบอกว่า ปกติตีนเขา จะมีกวาง กับกระทิง และสัตว์อื่นๆ ลงมากินน้ำ กินอาหาร ตอนมืดๆ เพราะป่ามันเป็นป่าทึบมากๆ และแล้ว มันก็มีกวางจริงๆแหละ ไม่น่าเชื่อเลย เค้าออกมากินน้ำ  และเห็นชนีบนยอดไม้ ลุงดำบอกว่า ปกติจะเห็นเยอะกว่านี้ถ้าเป็นเดือนมืด แต่นี่มันเดือนหงาย สัตว์ไม่ค่อยกล้าออกมาอะ  หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับสู่แพเพื่อนอนหลับฝันดี


image 


image 


image  


 วันที่ 2 ของการเดินทาง ตื่นแต่เช้า( 6.00 น.) ลุงดำเจ้าเก่า มารับไปดูหมอกยามเช้า ว้าวววววว สวยจริงๆ หมอกเยอะมากๆ เป็นทางยาวเลย นั่งล่องแพไปอากาศเย็นๆยามเช้า กับสายหมอกที่สวยงาม ช่างโรแมนติกเหลือเกิน..อิอิ ระหว่างก็เห็นนกเงือก (ตัวใหญ่มาก) มันมากันเป็นฝูงเลย บินอยู่ยอดเขา มีอีเห็น (มันเหมือนลิงผสมชะนี มองไกลๆอะ)


พอกลับมาถึงก็ทานอาหารเช้า เตรียมตัวออกจากแพ 500ไร่ เพื่อเดินทางสู่ ภูผาและลำธาร รีสอร์ท…


การเดินทาง


 


ระยะทางของเขื่อนเชี่ยวหลาน


 


ห่างจาก กรุงเทพ                                     730 กม.


ห่างจาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี                         85 กม.


ห่างจาก อ.เมืองพังงา                                100 กม.


ห่างจาก อ.เมืองภูเก็ต                                170 กม.


ห่างจาก อ.เมืองกระบี่                                150 กม.


ห่างจาก อ.พุนพิน (สถานีรถไฟ)                     70 กม.


ห่างจาก ปากทางเข้าเขื่อ                              13 กม.


ห่างจาก อช.เขาสก                                   60 กม.


ทางรถยนต์


 


จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม)  ไปจนถึงจังหวัดชุมพร


จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยก ที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้


ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401


จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึง ตัว อ.บ้านตาขุน


จะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ


ทางรถทัวร์


 


ถ้ามาจากกรุงเทพ ให้ขึ้นรถทัวร์ที่ไปยัง ภูเก็ต หรือ พังงา แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าลง ปากทางเข้าเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตรง อ.บ้านตาขุน


จากสถานีขนส่งสายใต้ มีรถโดยสารประจำทาง เดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
ที่มาการเดินทาง: http://www.chiewlarncamping.saicholsouthernthailand.com


ที่มาข้อมูลท่องเที่ยว Travel.mthai.com

12 7 2554 14 59 42 300x229 เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน (กุ้ยหลินเมืองไทย) แพทะเลใน 500ไร่ จ.สุราษฎร์ธานี


วันแรก ของการเดินทาง เราเริ่มเดินทางออกจาก กรุงเทพฯ ประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม โดยดูจากแผนที่นี่แหละ (เพราะไม่เคยไป) ก็คลำๆทางไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปถึง ประมาณ ตี5 เราจะเริ่มเดือนทางจากท่าเรือประมาณ 8 โมง (ไม่นอนเลยขับรถกันยาวมาตลอดคืน)


ระหว่าง นั่งเรือไป มีเขามากมาย (กุ้ยหลินเมืองไทยจริงๆ) ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ อดไม่ได้ที่จะแชะรูป มาเพียบ ที่เราชอบจะเป็น”เขาสามเกลอ” มันสวยจริงๆ ที่สำคัญที่นี่น้ำใสมากๆ สีเขียวเลยอะ


image


การเดินทางโดยเรือใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที (ขึ้นอยู่กับแวะถ่ายรูปเยอะป่าว) ก็ถึงที่จอดเรือ เพื่อเดินเท้าต่อไปประมาณ 1.5 กม.เพื่อจะไปแพทะเลใน 500ไร่ พอเดินถึงนั่งแพยนต์ไปอีกนิดนึงก็ถึงแพ500ไร่ โอ้วว!! มันสวยมาก เป็นแพบ้านๆ หันหน้าให้กับทิวเขาเลยอะ แถมมีหมอกพาดผ่าน อย่างสวยงาม ธรรมชาตินี่ช่างสร้างจริงๆ


image


 image


หลังจากนั้นเราก็พักผ่อนตามอัธยาศัย (แอบงีบสักหน่อยเพราะไม่ได้นอนเลย) ซักพักไปทานอาหารกลางวัน อาหารอาจจะไม่ค่อยถูกปากคนกรุงซักเท่าไร


image


พอทานอาหารเสร็จ เราก็ไปพายเรือเล่น สนุกดี (พายไม่ค่อยเป็นเท่าไร) พายไปซื้อขนมอะ แล้วก็กลับมาเล่นน้ำใสๆ แบบว่า น้ำใสจริงๆ ไม่ค่อยเย็นมาก เล่นได้นานเลย


image  


ประมาณ 16.00 น.ก็ไปดูถ้ำปะการัง โดย(แพยนต์อีกแล้ว)โอ้ว!!มายกอด มันแปลกจริง หินอะไร งอกออกมาเป็นดอกปะการังเลย (อันนี้ต้องไปดูด้วยตาอะ มันสวยมากๆ)มันสมบูรณ์มากๆ ถ้ำมันไม่ลึกเท่าไร เท่าที่มองดูยังไม่มีทางการมาดูแลมากมายเท่าไร เพราะหินที่งอกใหม่ไม่มีการกั้นคอก เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวไปเหยียบมันอ่ะ


หลังจากนั้นก็กลับมาอาบน้ำอาบท่า (อาบท่าจริงๆ ) ก็อาบหน้าแพที่เรานอนแหละ พออาบน้ำเสร็จก็ไปทางอาหารเย็น หลังจากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย


พอ 2 ทุ่ม ลุงดำ(โชว์เฟอร์แพยนต์ที่น่ารัก) ก็มารับไปส่องสัตว์ ตอนแรกเราก็งงว่า เค้าไนท์ซาฟารีกลางน้ำด้วยหรอ?? โอ้วๆ ที่จริง เค้าพาเรานั่งเรือยนต์ออกไปกลางน้ำ แล้วก็มีไฟส่องไกลๆ ไปตามเขาอะ ลุงดำบอกว่า ปกติตีนเขา จะมีกวาง กับกระทิง และสัตว์อื่นๆ ลงมากินน้ำ กินอาหาร ตอนมืดๆ เพราะป่ามันเป็นป่าทึบมากๆ และแล้ว มันก็มีกวางจริงๆแหละ ไม่น่าเชื่อเลย เค้าออกมากินน้ำ  และเห็นชนีบนยอดไม้ ลุงดำบอกว่า ปกติจะเห็นเยอะกว่านี้ถ้าเป็นเดือนมืด แต่นี่มันเดือนหงาย สัตว์ไม่ค่อยกล้าออกมาอะ  หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับสู่แพเพื่อนอนหลับฝันดี


image 


image 


image  


 วันที่ 2 ของการเดินทาง ตื่นแต่เช้า( 6.00 น.) ลุงดำเจ้าเก่า มารับไปดูหมอกยามเช้า ว้าวววววว สวยจริงๆ หมอกเยอะมากๆ เป็นทางยาวเลย นั่งล่องแพไปอากาศเย็นๆยามเช้า กับสายหมอกที่สวยงาม ช่างโรแมนติกเหลือเกิน..อิอิ ระหว่างก็เห็นนกเงือก (ตัวใหญ่มาก) มันมากันเป็นฝูงเลย บินอยู่ยอดเขา มีอีเห็น (มันเหมือนลิงผสมชะนี มองไกลๆอะ)


พอกลับมาถึงก็ทานอาหารเช้า เตรียมตัวออกจากแพ 500ไร่ เพื่อเดินทางสู่ ภูผาและลำธาร รีสอร์ท…


การเดินทาง


 


ระยะทางของเขื่อนเชี่ยวหลาน


 


ห่างจาก กรุงเทพ                                     730 กม.


ห่างจาก อ.เมืองสุราษฎร์ธานี                         85 กม.


ห่างจาก อ.เมืองพังงา                                100 กม.


ห่างจาก อ.เมืองภูเก็ต                                170 กม.


ห่างจาก อ.เมืองกระบี่                                150 กม.


ห่างจาก อ.พุนพิน (สถานีรถไฟ)                     70 กม.


ห่างจาก ปากทางเข้าเขื่อ                              13 กม.


ห่างจาก อช.เขาสก                                   60 กม.


ทางรถยนต์


 


จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม)  ไปจนถึงจังหวัดชุมพร


จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยก ที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้


ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401


จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึง ตัว อ.บ้านตาขุน


จะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ


ทางรถทัวร์


 


ถ้ามาจากกรุงเทพ ให้ขึ้นรถทัวร์ที่ไปยัง ภูเก็ต หรือ พังงา แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าลง ปากทางเข้าเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตรง อ.บ้านตาขุน


จากสถานีขนส่งสายใต้ มีรถโดยสารประจำทาง เดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
ที่มาการเดินทาง: http://www.chiewlarncamping.saicholsouthernthailand.com


ที่มาข้อมูลท่องเที่ยว Travel.mthai.com

No comments:

Post a Comment