Hi quest ,  welcome  |  sign in  |  registered now  |  need help ?
Hi, guest ! welcome to BREAK NEWS ONLINE. | About Us | Contact | Register | Sign In

ลูกน้อย เมื่อเจ้าหนูท้องเสีย

Written By 092505589 on Thursday, June 9, 2011 | 1:42 AM

[postlink]http://breaknewsonline.blogspot.com/2011/06/blog-post_9782.html[/postlink]

01 511 254x300 ลูกน้อย เมื่อเจ้าหนูท้องเสีย


  การถ่ายท้องเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับคนทุกเพศทุกวัย แล้วถ้าวันหนึ่ง การถ่ายท้องกลายเป็นเรื่องไม่ปกติของเจ้าจอมซนประจำบ้านล่ะ จะชุลมุนวุ่นวายขนาดไหนนะ เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมพร้อมรับมือ กับสถานการณ์อึไม่ปกติของลูก เราขอแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในอาการถ่ายท้องที่ไม่ปกตินั่นคือ…อาการท้องเสีย!!!


รู้ได้อย่างไรว่า “ท้องเสีย”


          ความปกติในการถ่ายท้องของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนถ่ายวันละ 1-2 ครั้ง ในขณะที่เด็กบางคนอาจถ่าย 2 วันครั้ง ทั้งนี้หากลูกรักมีอาการถ่ายบ่อยผิดปกติไปจากเดิม โดยถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรืออาจมีมูก มีเลือดปน คุณพ่อคุณแม่ก็เตรียมตัวดูแลรักษาอาการท้องเสียในเบื้องต้น ได้เลยค่ะ


“ท้องเสีย” เกิดขึ้นได้อย่างไร


อาการท้องเสียเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ดังนี้


          1.การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ทั้งนี้อาจเกิดจากการดื่มน้ำ หรืออาหารที่ไม่สะอาด และมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมั่นใจได้ว่า อาหารและน้ำดื่มที่ให้เจ้าตัวเล็กกินนั้น ถูกสุขลักษณะและสะอาดอย่างแน่นอน แต่ก็อย่าลืมว่า เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกอาจมาจากมือของลูกน้อยในการหยิบจับของเข้าปาก หรืออาจมาจากภาชนะที่นำมาใส่อาหารหรือเครื่องดื่มก็เป็นได้ นอกจากนี้อาจเกิดจากการติดเชื้ออื่น ๆ ในทางเดินอาหาร เช่น บิด อหิวาต์ ไทฟอยด์ เชื้อรา โรต้าไวรัส เป็นต้น


          2. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด อาการท้องเสียจากยานั้นมักเกิดขึ้นหลังจากกินยาไปแล้วประมาณ 3-5 วัน โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากตัวยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้หลายชนิด


          3.ระบบการย่อยการดูดซึมของลำไส้ทำงานผิดปกติ


          ทั้งนี้อาการท้องเสียยังเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก เช่น การแพ้โปรตีนในนม, ภาวะอารมณ์ ต่าง ๆ (เครียด, กังวล, ตื่นเต้น) เป็นต้น


ทำอย่างไรเมื่อลูก “ท้องเสีย”


          หากลูกน้อยมีอาการท้องเสียแต่ยังสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่มีอาการผิดแปลกไปจากเดิม คุณพ่อคุณแม่สามารถให้การดูแลในเบื้องต้นได้ตามนี้


          1.ผสมน้ำตาลเกลือแร่แก้ท้องเสียกับน้ำดื่มที่สะอาด ให้ดื่มตามปริมาณที่กำหนดก็จะช่วยในการสูญเสียน้ำ, เกลือโซเดียม และโพแทสเซียมจากการถ่ายท้องได้


          2.งดดื่มน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เพราะอาจทำให้ถ่ายท้องบ่อยขึ้น


          3.งดดื่มนมสด หรืออาจให้ดื่มที่เหมาะกับภาวะท้องเสีย เช่น นมถั่วเหลือง หรือนมที่ไม่มีแล็กโตส


          4.กินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย จำพวก โจ๊ก ข้าวต้ม เป็นต้น ทั้งนี้ควรทานครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ เพื่อให้ลำไส้ค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมอาหาร


          5. งดอาหารย่อยยากและอาหารที่มีไขมันสูง


          6.หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยุดถ่ายให้ลูกกิน เพราะถึงแม้จะช่วยให้อาการถ่ายท้องทุเลาลงไปชั่วคราว แต่ไม่สามารถช่วยรักษาการขาดน้ำจากการถ่ายท้องได้ พร้อมกันนี้การติดเชื้อก็ยังคงอยู่ ไม่ได้ขจัดออกไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ลูกมากขึ้น


          7.หากลูกมีอาการท้องเสียมาก หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น อาเจียนมาก ไข้ขึ้นสูง อ่อนเพลีย ซึม เป็นต้น ควรพาลูกไปพบคุณหมอ


ป้องกันไว้ก่อนอาการท้องเสียจะถามหา


          อยากให้ลูกน้อยปลอดภัย และห่างไกลจากอาการท้องเสียขอแนะนำหลากหลายวิธีควรปฏิบัติ ดังนี้


          1.ปลูกฝังนิสัยล้างมือก่อนหยิบจับกินอาหารทุกครั้ง


          2.ระมัดระวังการเล่นของลูกกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพราะอาจติดเชื้อท้องเสียได้ เนื่องจากน้องหมาน้องแมวที่มักจะออกไปเล่นซนหรือคุ้ยหาเศษอาหารต่าง ๆ ทำให้มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกติดตามปากและตัว


          3.หมั่นตรวจเช็กภาชนะสำหรับใส่อาหารและเครื่องดื่มว่า ได้รับการเช็ดล้างอย่างสะอาด และถูกจัดเก็บในตู้ที่ปิดมิดชิดปลอดภัยจากแมลงสาบ และหนูที่อาจไต่ไปตามภาชนะ


          4.กินอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด พร้อมกันนี้ควรจัดเก็บอาหารไว้ในตู้กับข้าว หรือใช้ฝาชีปิดครอบอาหาร เพื่อป้องกันแมลงวันตอม


          5.ปิดฝาถังขยะให้มิดชิด เพื่อหลีกเลี่ยงแมลงวันตอม และหลีกเลี่ยงการคุ้ยอาหารจากสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว


          6.ดูแลรักษาความสะอาดให้ลูก และระวังเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการหยิบฉวยเอาอะไรเข้าปาก

01 511 254x300 ลูกน้อย เมื่อเจ้าหนูท้องเสีย


  การถ่ายท้องเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับคนทุกเพศทุกวัย แล้วถ้าวันหนึ่ง การถ่ายท้องกลายเป็นเรื่องไม่ปกติของเจ้าจอมซนประจำบ้านล่ะ จะชุลมุนวุ่นวายขนาดไหนนะ เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมพร้อมรับมือ กับสถานการณ์อึไม่ปกติของลูก เราขอแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในอาการถ่ายท้องที่ไม่ปกตินั่นคือ…อาการท้องเสีย!!!


รู้ได้อย่างไรว่า “ท้องเสีย”


          ความปกติในการถ่ายท้องของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เด็กบางคนถ่ายวันละ 1-2 ครั้ง ในขณะที่เด็กบางคนอาจถ่าย 2 วันครั้ง ทั้งนี้หากลูกรักมีอาการถ่ายบ่อยผิดปกติไปจากเดิม โดยถ่ายเหลวเป็นน้ำ หรืออาจมีมูก มีเลือดปน คุณพ่อคุณแม่ก็เตรียมตัวดูแลรักษาอาการท้องเสียในเบื้องต้น ได้เลยค่ะ


“ท้องเสีย” เกิดขึ้นได้อย่างไร


อาการท้องเสียเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ดังนี้


          1.การติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ทั้งนี้อาจเกิดจากการดื่มน้ำ หรืออาหารที่ไม่สะอาด และมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมั่นใจได้ว่า อาหารและน้ำดื่มที่ให้เจ้าตัวเล็กกินนั้น ถูกสุขลักษณะและสะอาดอย่างแน่นอน แต่ก็อย่าลืมว่า เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกอาจมาจากมือของลูกน้อยในการหยิบจับของเข้าปาก หรืออาจมาจากภาชนะที่นำมาใส่อาหารหรือเครื่องดื่มก็เป็นได้ นอกจากนี้อาจเกิดจากการติดเชื้ออื่น ๆ ในทางเดินอาหาร เช่น บิด อหิวาต์ ไทฟอยด์ เชื้อรา โรต้าไวรัส เป็นต้น


          2. ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิด อาการท้องเสียจากยานั้นมักเกิดขึ้นหลังจากกินยาไปแล้วประมาณ 3-5 วัน โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากตัวยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้หลายชนิด


          3.ระบบการย่อยการดูดซึมของลำไส้ทำงานผิดปกติ


          ทั้งนี้อาการท้องเสียยังเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก เช่น การแพ้โปรตีนในนม, ภาวะอารมณ์ ต่าง ๆ (เครียด, กังวล, ตื่นเต้น) เป็นต้น


ทำอย่างไรเมื่อลูก “ท้องเสีย”


          หากลูกน้อยมีอาการท้องเสียแต่ยังสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่มีอาการผิดแปลกไปจากเดิม คุณพ่อคุณแม่สามารถให้การดูแลในเบื้องต้นได้ตามนี้


          1.ผสมน้ำตาลเกลือแร่แก้ท้องเสียกับน้ำดื่มที่สะอาด ให้ดื่มตามปริมาณที่กำหนดก็จะช่วยในการสูญเสียน้ำ, เกลือโซเดียม และโพแทสเซียมจากการถ่ายท้องได้


          2.งดดื่มน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เพราะอาจทำให้ถ่ายท้องบ่อยขึ้น


          3.งดดื่มนมสด หรืออาจให้ดื่มที่เหมาะกับภาวะท้องเสีย เช่น นมถั่วเหลือง หรือนมที่ไม่มีแล็กโตส


          4.กินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย จำพวก โจ๊ก ข้าวต้ม เป็นต้น ทั้งนี้ควรทานครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ เพื่อให้ลำไส้ค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมอาหาร


          5. งดอาหารย่อยยากและอาหารที่มีไขมันสูง


          6.หลีกเลี่ยงการซื้อยาหยุดถ่ายให้ลูกกิน เพราะถึงแม้จะช่วยให้อาการถ่ายท้องทุเลาลงไปชั่วคราว แต่ไม่สามารถช่วยรักษาการขาดน้ำจากการถ่ายท้องได้ พร้อมกันนี้การติดเชื้อก็ยังคงอยู่ ไม่ได้ขจัดออกไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ลูกมากขึ้น


          7.หากลูกมีอาการท้องเสียมาก หรือมีอาการอื่น ๆ เช่น อาเจียนมาก ไข้ขึ้นสูง อ่อนเพลีย ซึม เป็นต้น ควรพาลูกไปพบคุณหมอ


ป้องกันไว้ก่อนอาการท้องเสียจะถามหา


          อยากให้ลูกน้อยปลอดภัย และห่างไกลจากอาการท้องเสียขอแนะนำหลากหลายวิธีควรปฏิบัติ ดังนี้


          1.ปลูกฝังนิสัยล้างมือก่อนหยิบจับกินอาหารทุกครั้ง


          2.ระมัดระวังการเล่นของลูกกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพราะอาจติดเชื้อท้องเสียได้ เนื่องจากน้องหมาน้องแมวที่มักจะออกไปเล่นซนหรือคุ้ยหาเศษอาหารต่าง ๆ ทำให้มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกติดตามปากและตัว


          3.หมั่นตรวจเช็กภาชนะสำหรับใส่อาหารและเครื่องดื่มว่า ได้รับการเช็ดล้างอย่างสะอาด และถูกจัดเก็บในตู้ที่ปิดมิดชิดปลอดภัยจากแมลงสาบ และหนูที่อาจไต่ไปตามภาชนะ


          4.กินอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด พร้อมกันนี้ควรจัดเก็บอาหารไว้ในตู้กับข้าว หรือใช้ฝาชีปิดครอบอาหาร เพื่อป้องกันแมลงวันตอม


          5.ปิดฝาถังขยะให้มิดชิด เพื่อหลีกเลี่ยงแมลงวันตอม และหลีกเลี่ยงการคุ้ยอาหารจากสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว


          6.ดูแลรักษาความสะอาดให้ลูก และระวังเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการหยิบฉวยเอาอะไรเข้าปาก

No comments:

Post a Comment